วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560
หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ”หน่อพุทธางค์กูร ภาค.๔ "พระผู้เป็นดั่งมหาโพธิสัตว์เจ้าแห่งลุ่มนำโขง
556..หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ”หน่อพุทธางค์กูร
ภาค.๔ "พระผู้เป็นดั่งมหาโพธิสัตว์เจ้าแห่งลุ่มนำโขง
เวลาถ่ายรูปหลวงปู่ มักจะพบลำแสงคล้ายกงจักรที่ศรีษะหลวงปู่.. พอมีคนถาม หลวงปู่บอกว่า ที่ถ่ายติดศรีษะ เพราะท่านมีกงจักร เพราะชาติหนึ่งท่านเคยตัดศรีษะถวายพระพุทธเจ้า …และในปัจจุบันชาติ ในกายเนื้อ หลวงปู่มีเครื่องหมายแห่งมหาบุรุษมหาโพธิสัตว์ มีกงจักรใต้ฝ่ามือใต้เท้าด้วย ท่านเพียง “อวตาร” ลงมาทำกิจบางส่วน ปรุงโลก ปรุงศาสนา ท่านจะบอกลูกศิษย์ที่มีเชื้ออภิญญา ให้ท่องคำภาวนาว่า “นะมะ พะธะ”
การบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้ามีด้วยกัน ๓ ประเภท จำแนกตามความยิ่งหย่อนของปัญญา ศรัทธา และ วิริยะ การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ ต้องมอบกายถวายชีวิตเช่น การตัดศรีษะถวายเป็นพุทธบูชา
หลวงปู่ทองทิพย์ ท่านเข้าไปในดินแดนมิติอันลึกลับภูเขาควาย และได้มีโอกาสพบพ่อปู่ฤาษีมาลัยโกฎิ (ปู่สิงห์) ได้ศึกษาเล่าเรียนสรรรพวิชาอันถือว่าสุดยอดในสรรพวิชาของพระเหนือโลก(เป็นวิชาของพระมหาโพธิสัตว์ที่มีบารมีเป็นปรมัตถ์) โดยแท้ จนสำเร็จจึงเดินทางกลับฝั่งไทย
ตอนที่หลวงปู่ท่านข้ามแม่นำโขงมานั้น มีชายผู้หนึ่ง ได้เห็นอภินิหารของท่านโดย แกเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งนั่งอยู่บนผิวน้ำ พระรูปนั้นนั่งทับอยู่เหมือนงูแต่ใหญ่กว่าหลายเท่า พอถึงฝั่งไทยพระรูปนั้นก้าวเท้าขึ้นฝั่ง งูใหญ่หรือที่แท้ก็คือ"พญานาค" ก็ดำหายลงใต้น้ำโขง ส่วนพระรูปนั้นก็เดินหายเข้าป่าไป
แกจึงเดินหาพระภิกษุองค์นั้นมาเรื่อยๆจนถึง วัดป่าสีพระรามลักษณ์รัตนโคตร แกก็เห็นพระรูปหนึ่ง จึงบอกว่า “กระผมตามหาพระองค์นั้นอยู่ไม่ทราบว่าพระคุณเจ้าพอจะทราบ "ก็เฮาเองแหละ"คำตอบของพระรูปนี้ทำให้ตาแสง(ชายคนที่เห็น) กราบหลวงปู่ และถวายตัวเป็นโยมอุปฐากหลวงปู่ เป็นคนแรก
ต่อมา มีพระอาจารย์นรสิงห์ วัดจอมมณี จ.หนองบัวลำภู ไปกับเพื่อนพระด้วยกันที่วัดป่าสีดาฯ พอเห็นหลวงปู่แค่นั้น ไม่ศรัทธาเลย นึกในใจว่าพระอะไรใส่แหวน พระอะไรมีแต่สายสินธ์เต็มมือ จึงไม่ได้กราบหลวงปู่และก็กลับวัดเลย
พออาทิตย์ต่อมา อยากไปวัดปู่ทองทิพย์อีกครั้งหนึ่ง ท่านเจอหลวงปู่นั่งอยู่ที่เตียงคนเดียว หลวงปู่เลยชิงพูดขึ้นว่า “ น้อยเอ้ย(ชื่อเล่นอาจารย์นรสิงห์) ถ้าเจ้าไม่กราบพ่อแล้วเจ้าจะกราบใคร “ อาจารย์นรสิงห์ตอบว่า
“ถ้าอยากให้ผมกราบหลวงปู่ลองแสดงอะไรก็ได้ให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ “
พอพูดจบ หลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็ลอยขึ้นจากเตียงเลย และก็ลงมานั่งเหมือนเดิม……
พระอาจาร์นรสิงห์บอกว่าจากนั้นมา ท่านฝากตัวเป็นศิษย์และศรัทธาหลวงปู่ทองทิพย์อยากเต็มหัวใจ
หลวงปู่ มักเล่าเรื่องในตำนาน จนผู้รับฟังรู้สึกได้ว่า..หลวงปู่กำลังเล่าเรื่องราวของท่านเอง..ในชาติภพนั้น ท่านเล่าถึงรายละเอียดเกินตำนานอีก..ไม่ว่าจะเป็นพระราม พระลักษณ์ ทศกัณฑ์ นางสีดา...จนกระทั่งท่านมาตั้งวัดที่ท่านอยู่ว่า..” วัดป่าสีดาพระรามลักษณรัตนโคตร” เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ..สำหรับผู้ได้ญาณ ย่อมทราบว่า..หลวงปู่คือ พระราม..ในรามเกียรตินั่นเอง..มันมิใช่เรื่องเล่า..มันเป็นเรื่องจริง..เรื่องรามเกียรติ์ เป็นเรื่องราวเกิด..ในสมัยตั้งโลกใหม่ๆ..ในภัทรกัปนี้..ก่อนพระพระพุทธเจ้ากกุสันโธ จะลงมาตรัสรู้....ท่านเล่าถึง ตอน ..พระรามเดินดง.ไปกิน ไม้มณีโคตร จนกลายเป็นลิง ชื่อ “พระพาย” ต่อมา ลูกสาวฤาษีไปกินไม้มณีโคตร จึงกลายเป็นลิง เหมือนกัน และได้ครองคู่กัน ออกลูกเป็น”หนุมาน” .พอท่านเล่าเรื่องนี้ ลูกศิษยืถ่ายรูปออกมา เห็นรูปจางๆ เป็นรูปลิงติดมาด้วย จึงไปถามหลวงปู่..หลวงปุ่บอกว่า “ลิงพระพาย”
แล้วหลวงปู่เล่าต่ออีกว่า..”ต่อมาหนุมาน..ได้ไปเกิดในยุคพระพุทธเจ้ากกุสันโธ และได้ตัดหัวตัวเอง ถวายเป็นพุทธบูชา...และทั้ง พระราม พระลักษณ์ หนุมาน ล้วนเป็น๓โพธิสัตว์.ที่เวียนเกิดเวียนตาย...ท่านยังเล่าว่า..จริงแล้ว พระลักษณ์มีฤทธิ์มากกว่า หนุมาน อีก....
++..มีภาค ๕...นะ+
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น