วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

คุณเอ้กรอดตายเพราะหลวงพ่อ


คุณเอ้กรอดตายเพราะหลวงพ่อ โดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋) 22 ก.ย. 2559
เรื่องนี้เป็นรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2558 ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรีได้มีสตรีท่านหนึ่งเข้ามาอุปถัมภ์วัด โดยเริ่มจากการทำบุญทั่วๆ ไป แล้วก็เอาแรงกายแรงใจมาช่วยจัดงานต่างๆ ภายในวัดเพื่อหาเงินเข้าวัด สุดท้ายก็ถึงกับเอาเงินมาสร้างห้องน้ำใหม่ให้วัดด้วยเงินหลายล้านบาทและใช้ ช่างของเธอเองจนเธอเริ่มเป็นที่รู้จักของคนภายในวัดด้วยกัน ผมขอเรียกสตรีท่านนี้ว่า “คุณเอ้ก” (นามสมมุติ) ก็แล้วกัน
วันหนึ่งขณะที่คุณเอ้กกำลังทำงานภายในวัด โดยออกแรงยกของอย่างหนึ่งก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดและเสียวที่บริเวณหน้าอก ซึ่งอาการนี้เธอไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อมีโอกาสจึงได้ไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ ผลปรากฏว่าเธอเป็นมะเร็งที่หน้าอกถ้าจำไม่ผิดก็ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะที่อันตรายแล้วจะต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโดยเร็ว ในระหว่างนั้นเธอก็ยังคงปฏิบัติธรรมตามปกติแล้วก็มีนิมิตโดยมีเทวดามาบอกเธอ ว่าเวลาในโลกมนุษย์ของเธอหมดแล้ว อยากจะทำอะไรก็ให้รีบทำ
ผม (อู๋) เองก็รู้จักและสนิทกับคุณเอ้กพอสมควร เมื่อมีโอกาสก็ตรวจดูก็ทราบว่าหากเธอไปจากโลกมนุษย์แล้วเธอก็น่าจะไปสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์อยู่สุขสบายเที่ยวเล่นอีกนาน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะคุณเอ้กก็ได้สั่งสมบุญเอาไว้มากมาย แต่คนเราก็คิดไม่เหมือนกันเพราะคุณเอ้กเธอยังไม่อยากตาย เธอยังรักและห่วงใยลูกหลานของเธอ ตอนนี้เธอกำลังหลงหลาน 2 คนซึ่งกำลังน่ารักน่าชัง เธอยังไม่อยากไปไหน ทำให้เธอเกิดความทุกข์ใจมากเพราะใกล้ถึงเวลาที่หมอจะนัดผ่าตัดเอามะเร็ง ร้ายออกไปแล้ว
คุณเอ้กไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร เธอจึงไปกราบเรียนหลวงพ่อให้ช่วย และได้เล่าว่าเธอเองก็มีนิมิตมาว่าเทวดามาบอกว่าถึงเวลาไปแล้วอีกด้วย ที่สำคัญเธอยังได้บอกหลวงพ่ออีกว่าคุณพ่อของเธอก็ตายเพราะโรคมะเร็ง โดยหลังจากผ่าตัดแล้วพ่อของเธอก็ตายหลังจากหมอให้คีโมเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้เพราะร่างกายของทั้งคุณพ่อและคุณเอ้กนั้นแพ้ต่อยาต่างๆ เวลาไม่สบายจึงกินยาไม่ได้เพราะแพ้ยาหมด พอหมอฉีดคีโมให้คุณพ่อท่านจึงเสียชีวิตทันที หลวงพ่อฟังเธอเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้วก็เป็นห่วงเธอมากเพราะเป็นกรณีที่ ช่วยยากจริงๆ แต่ในเมื่อคุณเอ้กมีบุญคุณความดีที่เข้ามาช่วยเหลือวัดมาก หลวงพ่อท่านจึงยอมรับที่จะช่วยคุณเอ้ก
การช่วยเหลือคุณเอ้กนั้น นอกจากจะต้องทำวิชชาโดยเข้าไปทำลายให้ดวงมรณะ (ดวงดำ) ดับสลายไป ซึ่งดวงมรณะนี้จะเกิดมีขึ้นที่ศูนย์กลางกายของคนที่ใกล้จะตายทุกคน การทำให้ดวงมรณะนี้สลายหายไปจะต้องใช้บารมีของผู้ช่วยและบารมีของคุณเอ้กเอง ต่างคนก็ต่างต้องเสียบารมีของตัวเองไปบ้าง เพราะเป็นการฝืนดวงฝืนกรรมเพื่อขอขยายเวลาให้สามารถอยู่ในโลกมนุษย์ไปได้อีก หน่อย ดังนั้นคุณเอ้กจึงได้ทุ่มเทเงินทองโดยทำบุญใหญ่ถวายเงินสร้างพระมหาเจดีย์ ที่วัดกำลังดำเนินการก่อสร้าง ปล่อยนกปล่อยปลาในปริมาณมากๆ นับร้อยๆ กิโล ปล่อยวัวปล่อยควาย รักษาศีล 8 สวดมนต์นั่งสมาธิ ทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มพูนบุญบารมีของตัวเอง
นอกจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ยังต้องไปขอครูบาอาจารย์ พระพุทธเจ้าองค์ต้นๆ ให้ช่วยด้วยเพราะถือว่าคุณเอ้กเป็นผู้มีพระคุณต่อวัดและพระศาสนา ผลจากการที่หลวงพ่อเข้ามาช่วยปรากฏว่าอยู่ๆ คุณเอ้กก็ไปรู้จักคุณหมอที่เก่งที่สุดในประเทศเรื่องการรักษามะเร็ง คุณเอ้กจึงทำเรื่องขอย้ายโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดกับคุณหมอที่เพิ่งรู้จัก กำหนดการผ่าตัดก็บังเอิญร่นคิวขึ้นมาได้เร็วขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ การวางยาสลบและการผ่าตัดสำเร็จผ่านไปด้วยดี 100% แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่คุณเอ้กกลัวที่สุดก็คือการให้คีโมครั้งแรก คุณเอ้กกลัวว่าจะซ้ำรอยเหมือนกับที่คุณพ่อของเธอ แต่เธอก็มีกำลังใจดีเพราะมีหลวงพ่อท่านช่วยอยู่ หลังการให้คีโมครั้งแรกเธอไม่เกิดการแพ้คีโมเลย น่าอัศจรรย์จริงๆ แล้วหมอก็ให้คีโมเธอต่ออีก 2-3 ครั้ง จนคุณหมอบอกว่าเธอหายจากโรคมะเร็งแล้ว
คุณเอ้กเธอรอดตายแล้ว ทุกวันนี้เธอก็ยังมาช่วยเหลือดูแลวัดตามปกติ คุณเอ้กเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมรู้จักที่หลวงพ่อท่านช่วยเอาไว้ได้ ไม่ใช่มีแต่คุณเอ้กคนเดียวที่รอดตายเพราะหลวงพ่อ ผมยังรู้ว่ายังมีอีก 4-5 คนที่ผมรู้จัก คนเหล่านี้รอดตายมาได้เพราะบังเอิญมาทำบุญที่วัดแห่งนี้และขอให้หลวงพ่อท่าน ช่วย แต่ก็ไม่ใช่ท่านจะช่วยทุกคนนะครับ เพราะการช่วยคนอื่นท่านก็ต้องใช้บารมีของท่านไปด้วย และคนที่ท่านจะให้ช่วยก็ต้องมีคุณค่าเหมาะสมที่จะอยู่ต่อไป บางคนวิญญาณออกจากร่างไปแล้วภรรยารีบโทรมาหาหลวงพ่อให้ช่วย ท่านยังต้องไปตามวิญญาณกลับมาเข้าร่างจนฟื้นขึ้นมาได้.....เรื่องนี้ผม ตัดสินใจเล่าไว้เพราะหลวงพ่อท่านคงไม่เล่าให้ใครฟังแน่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ตัวละครทุกตัวมีตัวตนอยู่จริง ผมขอเล่าไว้เพื่อมิให้เรื่องถูกลืมเลือนหายไปนะครับ

พญาครุฑมาดูแลรักษาหลวงป๋า


พญาครุฑมาดูแลรักษาหลวงป๋า โดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋)
ผมรู้เรื่องนี้มานานนับ 10 ปีแล้วว่ามีท่านพญาครุฑอาสามาดูแลรักษาหลวงป๋า แต่ก็ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้ให้ได้ยินเลย วันนี้ (21 ก.ย.59) มีน้องคนหนึ่งที่ได้ธรรมกายเขาโทรมาหาผมแต่เช้าตอนประมาณ 9.30 น. ด้วยเสียงที่ตื่นเต้น
น้องชายผม : "พี่อู๋ครับ วันนี้ผมกำลังจะเดินทางไปประเทศจีน ขณะที่ผมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมได้เจอกับท่านพญาครุฑ ท่านพญาครุฑบอกผมว่าขณะนี้มีพระสงฆ์ที่ได้ธรรมกายมาอยู่ในสนามบินแห่งนี้ ด้วย ผมก็เลยมองหาไปรอบๆ ปรากฏว่าเห็นหลวงป๋ามากับพระอีกนับ 10 รูป ผมเลยรีบเข้าไปกราบหลวงป๋า"
ผมก็เลยเล่าให้น้องชายคนนี้ไปว่า ใช่เลยเพราะผมรู้เรื่องนี้มานานแล้วว่ามีท่านพญาครุฑอาสามาดูแลรักษาหลวงป๋า โดยเฉพาะตอนที่ท่านจะต้องใช้การเดินทางโดยเครื่องบิน ท่านพญาครุฑจะบินประคองเครื่องบินโดยจะแบกเครื่องบินไว้ที่หลังแล้วบินไป พร้อมกัน เพื่อป้องกันภัยทางอากาศให้หลวงป๋า และไม่ต้องกลัวว่าเครื่องบินจะตกหลุมอากาศ ท่านพญาครุฑท่านบอกมาแบบนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีพยานเกิดขึ้นเพื่อยืนยันเรื่องพญาครุฑนี้ ผมดีใจมากที่น้องคนนี้พูดออกมาเองว่าเห็นท่านพญาครุฑ เพราะน้อยคนนักที่จะมีโอกาสเห็นท่าน หากหลวงป๋าไม่ได้เดินทางไปจีนเพื่อทำงานเผยแพร่วิชชาธรรมกายแล้ว น้องคนนี้เขาก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นท่านพญาครุฑแน่ แล้วก็ได้มาเป็นพยานให้ผมว่ามีท่านพญาครุฑมาดูแลรักษาหลวงป๋าจริง ตามที่ผมได้ทราบมา สาธุและขออนุโมทนาบุญกับท่านพญาครุฑ ที่มาสร้างบารมีดูแลรักษาพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งของยุคนี้