วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระวัดปากน้ำและพระตระกูลวัดปากน้ำแต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์แตกต่างกันหรือไม่


#ความศักดิ์สิทธิ์ของพระวัดปากน้ำและพระตระกูลวัดปากน้ำแต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์แตกต่างกันหรือไม่ ?
โดย พระเทพญาณมงคล (เสริมชัย ชยมงฺคโล)
พระทุกรุ่น ทุกพิมพ์...ที่สร้างขึ้นโดยพระผู้สร้างองค์เดียวกัน หรือ คณะเดียวกัน ย่อมทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพ...เหมือนกัน หรือพอๆกัน ทุกรุ่น ทุกพิมพ์
เว้นแต่ในบางรุ่น...พระผู้สร้างจะเน้นความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ บางประการ
เป็นพิเศษ ก็จะทรงความศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเป็นพิเศษในบางประการที่พระผู้สร้างอธิษฐานจิตขอบารมีพระพุทธเจ้าทับทวีในเรื่องนั้นๆ เช่นว่า
พระของขวัญวัดปากน้ำ รุ่นที่ ๑ - ๒ - ๓
ที่พระเดชพระคุณ “หลวงพ่อวัดปากน้ำ “ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นผู้สร้างขึ้นเอง ย่อมทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธภานุภาพเสมอกัน เพราะผู้สร้าง (หลวงพ่อสด) ย่อมทรงภูมิธรรม และ เจริญวิชชาอย่างเดียวกัน
แม้จะมีผู้ตั้งปัญหาขึ้นมาว่า พระผู้สร้างยิ่งแก่พรรษา...วิชชาก็ยิ่งแก่กล้าขึ้น พระที่สร้างขึ้นรุ่นหลังๆน่าจะทรงคุณวิเศษยิ่งกว่ารุ่นแรกๆ ดูก็น่าจะสมเหตุสมผล
แต่แท้ที่จริงแล้ว การทำ "วิชชาธรรมกายชั้นสูง" นั้น
พระผู้สร้างย่อม "ทำวิชชาทับทวี" แก่ "พระ"
...ทั้งที่สร้างไว้รุ่นก่อนๆ รวมมาถึงรุ่นปัจจุบัน และแม้ที่จะทำต่อไปในอนาคตด้วย เรียกว่า “การคำนวณรวมเข้ามาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต” เสมอพระผงธรรมขันธ์ (รุ่นที่ ๔) และ พระธรรมกาย (รุ่นที่ ๕) ซึ่งสร้างขึ้นโดยพระเดชพระคุณ พระราชพรหมเถร (วีระ คณุตฺตโม)
รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ องค์ปัจจุบัน ก็ทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพเสมอกัน
เพราะพระที่สร้างขึ้นประกอบด้วยผงมวลสาร
จากพระผงของขวัญรุ่นที่ ๑ ๒ ๓ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำและ พระเดชพระคุณ พระราชพรหมเถร (วีระ คณุตฺตโม) ผู้สร้างขึ้น...ก็ทรงภูมิธรรม และเจริญวิชชา ตามที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก “พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ” อย่างเดียวกันทั้ง ๒ รุ่น
แม้จะมีผู้สร้างข่าวขึ้นว่า พระรุ่น ๕ มิใช่รูปแบบเดิม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำเคยทำ
แต่เป็นแบบพระธรรมกาย จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์ (ขลัง) เหมือนรุ่นอื่นๆ ที่มีรูปแบบเหมือนพิมพ์พระของขวัญเดิม ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
นี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างมโหฬาร
เพราะเหตุว่า “ธรรมกาย” นั่นแหละเป็นหัวใจ
เป็นชีวิตจิตใจของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำทีเดียว ท่านสอนศิษยานุศิษย์เป็นประจำให้ปฏิบัติภาวนาให้ถึงธรรมกาย
ท่านสอน “วิชชาธรรมกายของพระพุทธเจ้า” ... จนตลอดชีวิตท่าน นับตั้งแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านปฏิบัติถึง “ธรรมกาย” ถึง “พระนิพพาน”
คือ ธรรมกายที่บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ซึ่งเข้าอนุปาทิเสสนิพพานแล้วสถิตอยู่ในอายตนะนิพพานนั้นแหละ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านสอนว่า
ธรรมกายนั่นแหละ คือ พระพุทธรัตนะ
วัดปากน้ำเจริญรุ่งเรืองมาจนบัดนี้
ก็ด้วย “อานุภาพวิชชาธรรมกาย” ... ก็รู้ๆกันอยู่ ความจริงเป็นอย่างนี้ พระธรรมกายรุ่นที่ ๕ จะด้อยกว่ารุ่น ๔ หรือรุ่นอื่นๆได้อย่างไร
เป็นเรื่องของคนไม่รู้วิชชาธรรมกาย...พูดเลอะเทอะไป
คนรู้วิชชา...เขาจะไม่พูดอย่างนั้น
พระจะทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพเพียงใดนั้น
ขึ้นอยู่ที่ “ภูมิธรรม” และ “การเจริญวิชชา”... ของผู้สร้าง
และขึ้นอยู่ที่ความเป็น “ผู้มีศีลมีธรรม”... ของผู้มีพระไว้เคารพบูชา (ปฏิบัติบูชา) ด้วยใจศรัทธาเองเป็นสำคัญ
พระรุ่นที่ ๖ ซึ่งคญะศิษย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำได้สร้างขึ้น โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ปัจจุบัน
เป็นประธาน และ เป็นผู้แจกให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์ สร้างพระไตรปิฎกหินอ่อน และมหาวิหารที่ประดิษฐานพระไตรปิฎกนั้น ก็ทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพเสมอกันทุกพิมพ์ ไม่มีพิมพ์ไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากันเลย เพราะคณะผู้สร้างเป็นคณะเดียวกัน เจริญวิชชาเดียวกัน
แม้จะมีผู้สร้างข่าวพิมพ์นิยมพิเศษขึ้น ถ้าเป็นพระที่คณะศิษย์ผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดียวกันนี้สร้างขึ้น
และพระเดชพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ผู้เป็นประธานในการสร้าง เป็นผู้แจกให้แล้ว
ก็ศักดิ์สิทธิ์เสมอกันทุกพิมพ์...ไม่แตกต่างกันเลย
พระตระกูลวัดปากน้ำ ซึ่ง พระเดชพระคุณพระราชพรหมเถร (วีระ คณุตฺตโม) รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้สร้างขึ้น
โดยมี พระราชญาณวิสิฐ (เสริมชัย ชยมงฺคโล) ผู้เป็นศิษย์ เป็นผู้ช่วยอำนวยการสร้างขึ้นทุกรุ่น ได้แก่
พระผงสมเด็จธรรมกาย (พิมพ์เหรียญกลม)
พระกริ่งรูปเหมือนหลวงพ่อสด
พระเหรียญภัตตาหาร (สมบัติจักรพรรดิ)
พระบูชาธรรมกาย
รูปเหมือนหลวงพ่อสด (ยืน)
ฯลฯ
เพื่อให้เป็นที่ระลึก แก่ผู้ร่วมสร้าง วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ในสถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และแก่ผู้ตั้งทุนนิธิภัตตาหารคิลานเภสัช เพื่อใช้ดอกผลเป็นค่าภัตตาหาร และค่ารักษาพยาบาลพระภิกษุและสามเณร ผู้อยู่จำพรรษาเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม ณ วัดหลวงพ่อสด ฯ
เหล่านี้ย่อมทรงความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธานุภาพ
เช่นเดียวกับ พระผงธรรมขันธ์รุ่น ๔ และ พระธรรมกายรุ่น ๕ ของวัดปากน้ำทุกประการ ด้วยว่าเป็นพระที่สร้างขึ้น โดยพระผู้สร้างองค์เดียวกัน ผงมวลสารรุ่น ๑ - ๒ - ๓ เช่นเดียวกัน และผ่านการเจริญวิชชาธรรมกายชั้นสูงอย่างเดียวกันทุกประการ
แล้วยังได้รับการเจริญภาวนาวิชชาธรรมกายชั้นสูง
จากศิษยานุศิษย์ในพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งมีทั้งพระภิกษุสามเณร...ผู้อยู่ประจำ และทั้งผู้มาเข้ารับการอบรมพระกัมมัฏฐานทุกรุ่น ณ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
เป็นประจำเสมอมา...ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ จนถึงปัจจุบัน
จะมีคุณพิเศษเป็นการเพิ่มเติม เฉพาะบางรุ่นบางพิมพ์บ้าง
ก็เนื่องแต่การเน้นอธิษฐานจิตขอบารมี พระพุทธเจ้า จักรพรรดิ และต้นธาตุต้นธรรมเป็นกรณีพิเศษ เช่น
พระเหรียญภัตตาหาร (สมบัติพระจักรพรรดิ)
ก็เน้นเรื่องจักรพรรดิ รัตนะ ๗ (พระภาคผู้เลี้ยง) เพื่อทับทวียังความสุข สมบูรณ์ บริบูรณ์
ด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ (มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑)
บังเกิดมีแก่ผู้มีศีลมีธรรม และมีพระนี้ไว้ในครอบครอง
ความจริง “พระทุกรุ่น ทุกพิมพ์”
... ก็มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ตามที่กล่าวนี้ด้วยกันทุกองค์ หรืออย่างเช่น
พระผงสมเด็จธรรมกาย (พิมพ์เหรียญกลม)
ด้านหลังมีภาพธาตุ ๖ อยู่ในดวงปฐมมรรค ชื่อว่า “พิมพ์ธาตุ ๖” ก็เน้นเรื่องการปฏิบัติภาวนาตามแนววิชชาธรรมกาย ผ่านดวงปฐมมรรค ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางกำเนิดธาตุธรรมเดิม ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เหนือระดับสะดือ ๒ นิ้วมือ เพื่อชำระธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ คือ “ใจ” ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสนิวรณ์ ผ่านกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม (มีสติพิจารณาธรรมในธรรม คือ นิวรณ์ ๕) เพื่อเข้าถึง “ธรรมกาย” และ “พระนิพพาน” ตามรอยบาทพระพุทธองค์
สำหรับพิมพ์ที่ด้านหลัง มีภาพปราสาททำวิชชา ชื่อว่า “พิมพ์ซุ้มปราสาท” ก็เพื่อเน้นการเจริญภาวนาต่อไป
...ให้ถึงปราสาททำวิชชา ของพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรมในอายตนะนิพพานเป็น เพื่อชำระสะสางธาตุธรรม คือ อาสวะ หรือ อนุสัยกิเลสต่อไปให้ถึงที่สุดละเอียด
เป็นการทำนิโรธ (ดับสมุทัย) ให้แจ้ง นั่นเอง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) และคณะศิษย์ผู้ทรงคุณวุฒิ
ได้สร้างพระวัดปากน้ำ และ พระตระกูลวัดปากน้ำขึ้น
ก็เพื่อให้แก่ญาติโยมสาธุชนได้มีไว้เพื่อ “ปฏิบัติบูชา”
โดยทาง ทาน ศีล ภาวนา,
ศีล สมาธิ ปัญญา,
ให้ยิ่งขึ้นไปเป็น อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ฯลฯ
เพื่อให้ ละชั่ว กระทำความดี ชำระจิตใจให้ผ่องใส
เพื่อสร้างพระในใจตน ให้ได้ถึง “ธรรมกาย” และ “พระนิพพาน” เป็นสำคัญ
แล้วพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และ พระสังฆคุณ
อันเกิดมีในตน...โดยมี “พระ” เป็นสื่อปฏิบัติภาวนาธรรม
จะคุ้มครองผู้ทรงศีลทรงธรรม และมีพระนั้นไว้ในครอบครองเอง ผู้ประพฤติผิดศีลและผิดธรรม หรือ ผู้ประพฤติละเมิดพระธรรมและพระวินัย จิตใจเศร้าหมอง ด้วยตัณหา ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ อยู่เนืองนิตย์
แม้จะมีพระรุ่นไหน ไว้มากมายพียงใด...ก็ช่วยอะไรไม่ได้
คือ หาความเจริญและสันติสุขไม่ได้ ทั้งในปัจจุบันและในสัมปรายภพ ประตูอบายภูมิทั้ง ๔ ก็เปิดรอรับอยู่ทุกเมื่อ
สิ้นบุญเมื่อใด ก็จะรู้รสผลของกรรมอันเป็นบาปอกุศลเมื่อนั้น
*** ที่มา
หนังสือ อานุภาพพระตระกูลวัดปากน้ำ
วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
อ.ดำเนินสะดวก
จ.ราชบุรี

หลวงพ่อสดกับข้าวสาร




#หลวงพ่อสดกับข้าวสาร
#ก่อนที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านจะมรณภาพประมาณ 5 ปี
ท่านได้เรียกประชุมคณะศิษย์ทั้งในและนอกวัดเป็นกรณีพิเศษที่ศาลาการเปรียญ #เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่าท่านจะถึงกาลมรณภาพในอีก 5 ปีข้างหน้า
กิจการใดที่ท่านได้ดำเนินไว้แล้วขอให้ช่วยกันทำกิจการนั้นๆ อย่าทอดทิ้ง ท่านบอกว่าต่อไปวัดปากน้ำจะเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต
แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้วแต่ก็มีโอกาสช่วยวัดได้มากกว่ายังมีชีวิตอยู่ มีลูกศิษย์หลายคนได้อาราธนาขอมิให้ท่านมรณภาพ
#ท่านตอบว่าไม่ได้อีก 5 ปี #ท่านจะไม่อยู่แน่ๆแล้ว
#ตั้งโรงครัว
หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านปกครองทุกคนที่อยู่ในวัดไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ
สามเณร อุบาสก อุบาสิกา
ศิษย์วัดแบบพ่อปกครองลูก
ท่านยึดหลักธรรมพรหมวิหาร 4 เป็นข้อปฏิบัติ
ความเป็นผู้มีเมตตาธรรมของท่านนั้น
เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ศิษยานุศิษย์มาตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่วัดพระเชตุพนฯ
บางวันท่านออกบิณฑบาตได้อาหารเพียงเล็กน้อย บางวันก็ไม่ได้อาหารเลย วันหนึ่งท่านได้อาหารมาเพียงทัพพีเดียวกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูก
#ขณะที่กำลังจะฉันอาหารนั้น #ท่านเหลือบไปเห็นสุนัขแม่ลูกอ่อนผอมโซ อดอยากมาเดินป้วนเปี้ยน #ท่านบังเกิดความเมตตาสงสารจึงยอมสละอาหารมื้อนั้นให้เป็นทาน #ท่านจึงตั้งปณิธานไว้ว่าถ้ามีกำลังและโอกาสท่านจะตั้งโรงครัวเลี้ยงพระภิกษุ สามเณร #เป็นทานแก่ผู้อดอยากยากจนให้ได้ #และท่านก็ทำได้สำเร็จ #เป็นพระองค์แรกที่สามารถเลี้ยงดูพระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ศิษย์วัดตลอดจนผู้มาปฏิบัติธรรมได้ทุกวัน #นับเป็นจำนวนพันก็เลี้ยงได้ #แม้เมื่อมรณภาพไปแล้วจนถึงปัจจุบัน
"#พวกเอ็งคอยดูนะ แม้เมื่อหลวงพ่อตายไปแล้ว ก็จะเลี้ยงดูให้พวกเอ็งได้อิ่มหนำสำราญ ไม่ต้องกลัว ขอเพียงให้ทุกคนตั้งใจศีกษาเล่าเรียน ตั้งใจปฏิบัติกันให้จริงจัง"
------------------------------------------------------------
แม่ชีพราหมณ์ ช้างเขียว
หลวง พ่อเป็นคนจริงจัง ทำอะไรทำจริงทำจัง พูดจริง ทำจริง พูดเรื่องอะไรก็ตาม รับรองได้เลยไม่มีคลาดเคลื่อนเลย คำพูดของท่านวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็ไม่ดุ แต่ไม่รู้ทำไมกลัวท่าน ท่านรู้หมดแหละว่า ลูก ๆ ท่านเป็นยังไงเวลาเทศน์ ใครสักคนกำลังคิดอะไรอยู่ ท่านก็เทศน์แทงใจเลย คนนั้นก็จะรู้ด้วยตัวเอง เรากลัวก็กลัว แต่ก็รักหลวงพ่อ หลวงพ่อให้ช่างปั้นรูปหล่อของท่านไว้ ท่านจะเดินไปให้ช่างดูตัวทุกวัน ท่านรู้ว่าท่านจะเริ่มป่วย ก็เลยให้ช่างปั้นรูปท่านไว้ ภายในบรรจุของศักดิ์สิทธิ์มากมาย ฉันจำได้ตอนหลวงพ่ออายุราวๆ ๗๐ ปี หลวงพ่อผิวขาวสวยงามมาก ท่านดูผ่องใสมาก น่าเลื่อมใสศรัทธามาก ยิ่งตอนหลวงพ่อห่มจีวรใหม่จะดูหลวงพ่อสว่างทีเดียว
เวลาหลวงพ่อเทศน์ ถ้าวันไหนมีพระลงน้อย ท่านก็จะบอกว่า วันนี้พระแพ้แม่ชี แล้วท่านก็จะไม่เทศน์ด้วย พระก็จะต้องรีบวิ่งไปตามพระมา ตามมาจนเต็มโบสถ์ วันหลังพระก็เข็ด เวลาเทศน์ถ้ามีคนตะบันหมาก ท่านก็จะหยุดเทศน์ รอให้ตะบันเสร็จก่อน น่ากลัวมั้ยละ คนกำลังเทศน์อยู่ดีๆ ก็หยุดเทศน์ไปเฉยๆ วัยพฤหัสหลวงพ่อจะลงมาสอนธรรมะ ถ้าใครส่งเสียงดังรบกวน ท่านก็จะพูดไปเลยว่า เดี๋ยวหูหนวกนะ รบกวนคนกำลังปฏิบัติ เวลาจะมีผู้ใหญ่มาวัดปากน้ำ หลวงพ่อจะเดินตรวจวัด เดินไปตามทาง มองไปทางโน้นที ทางนี้ที ทุกคนรีบเก็บเสื้อผ้า เรียบร้อย รู้เลยว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่มา
หลวงพ่อท่านเป็นคนประหยัด ละเอียดถี่ถ้วน เดินไปตามถนนท่านเจอเศษไม้เป็นท่อน ท่านเก็บเอามา ท่านบอกว่าเอาไว้ทำฟืนได้ พวกผ้าขี้ริ้วมันขาดแล้วก็อย่าเอาไปทิ้ง ปะมันจำเป็นอะไรมันรั่วขึ้นมา เอาน้ำมันยางโปะมันก็กันได้ ชั่วระยะไม่ให้ทิ้ง แล้วที่ล้างชามอย่าไปเทพรวดๆ ค่อยๆ ริน เอาน้ำออก แล้วไอ้ที่ก้นๆ ไปให้หมู ให้หมากินก็ได้ ท่านสอนละเอียดเลย สอนบ่อยๆ สอนมากๆ เข้าก็ค่อยๆ ซึมเข้าไป สมัยนี้ไม่มีใครทำหน้าที่สอนเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำเลย
---------------------------------------------------------------
แม่ชีศรีปรุง อุบลนุช
พอตี ๓ แม่ชีต้องลุก ตวงน้ำใส่แก้ว ตั้งตามโต๊ะ กระโถนอยู่ตรงกลาง เดี๋ยวนี้ไม่ต้องตวงน้ำแล้วมีแก้วกับขวดตั้งสะดวกสบาย หลวงพ่อท่านเคยเรียกแม่ชีและบอกว่าโต๊ะตรงนี้นะ กระโถนตั้งตรงนี้ ตั้งเป็นระยะๆ ผ้าจะปูตรงกลางแล้วมีแก้วน้ำ กาน้ำแก้วน้ำนี้ต้องตวงด้วย ท่านบอกต้องทำให้สะอาดนะ ทำไปนะกุศลใหญ่ บุญใหญ่ สมัยนั้นยังใช้น้ำกรองตักจากแท้งค์ใหญ่ หลวงพ่อจะลงฉัน เวลาพระฉันก็ได้ยินแต่เสียงช้อน ไม่ให้คุยกัน พระเยอะๆ ก็ไม่ให้นั่งคุย ถ้าคุยท่านก็จะถาม “ฉันข้าวหรือกินเหล้า” ไม่ให้พูด ได้ยินแต่เสียงช้อนเพราะว่าเป็นชามกระเบื้อง แต่ก่อนแม่ชีท้วมเป็นแม่ครัวดูแลครัวทั้งหมด มาอยู่ก่อน ๕ ปี แม่ชีเขาจะมีเวรทำวิชชาไม่ขาดสาย พอเวรนี้ออกคนโน้นก็มาแทนเปลี่ยนเวรกัน ไม่ให้ขาด หมุนเวียนไปเรื่อยๆ แล้วจะจัดสำหรับเอาไว้ให้ต่างหาก
--------------------------------------------------------------------
พระอาจารย์สุวิชา เปสโล คณะเนกขัมม์ วัดปากน้ำ
เมื่อก่อนวัดปากน้ำไม่มีอะไรหรอก ริเริ่มก็เป็นวัดเก่าแก่ กุฏิก็มีไม่กี่หลัง สมัยหลวงพ่อที่นี่ก็เป็นสวนพลู สวนหมาก สวนมะพร้าว สวนเงาะ กุฏิเป็นกุฏิเล็กๆ ยกขึ้น ปลูกด้วยไม้สัก พักได้องค์เดียว อยู่ตามร่องสวน สมัยหลวงพ่อ ตึกยังไม่มี ยกโรงกลางสนามวัดให้พระได้ศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรม ไม่ได้สร้างอะไร อยู่มาพระเณรมากขึ้น ไม่มีที่ศึกษาเล่าเรียน มีคนเขาให้หลวงพ่อช่วยสร้างโรงเรียนขึ้นสักหลัง ต่อมาจึงมีการสร้างพระของขวัญขึ้น องค์ละ ๒๕ บาท เพื่อนำเงินมาสร้างโรงเรียนหลวงพ่อบอกว่า เราต้องสร้างคนเสียก่อน ให้มีความรู้ ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา ให้รู้จักธรรมะ ให้รู้จักบุญ รู้จักบาป รู้จักคุณ รู้จักโทษ เดี๋ยวเขาก็สร้างเอง เขามีศรัทธาเดี๋ยวเขาก็สร้างเอง ไม่ต้องบอก แล้วอีกอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อสอนทุกเช้า คือเมื่อพระภิกษุสามเณรบวชมาแล้วให้ตั้งอยู่ในธรรมวินัย ไม่ต้องวิ่งไปหาญาติโยม ให้อยู่ในวัด ประพฤติปฏิบัติให้ดี เมื่อเราประพฤติปฏิบัติดี เดี๋ยวเขาก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาก็เอาอาหารมาถวายเอง หลวงพ่อมีอุดมคติอย่างนั้น พระภิกษุสามเณร อุบาสก แม่ชีจึงต้องปฏิบัติกันทุกคน ไม่ต้องกลัวอด ถ้าอดเป็นอด ตายเป็นตาย ขอให้เราประพฤติ ปฏิบัติจริง ตั้งอยู่ในพระธรรมวินัยจริง มนุษย์ไม่เห็น เทวดา ผีสางก็เห็นเขาก็สรรเสริญเอง
หลวงพ่อมีลูกศิษย์ ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ สมัยนั้นพระเณรหลวงพ่อไม่ให้มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่ให้จับเงิน จับทอง แต่ก่อนพระเณรที่มาอยู่กับหลวงพ่อให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร หลวงพ่อมีโรงครัวเลี้ยง มีพระจบเปรียญกันมากมายจากวัดปากน้ำ หลวงพ่อสด ท่านสอนว่าใครจะโจมตีเรายังไงก็แล้วแต่ ท่านให้เราเป็นเสาหิน เรียกว่าจะมีพายุทั้ง ๔ ด้านมาเราก็เฉย มี ครั้งหนึ่งมีคนมาด่าหลวงพ่อที่หน้าโบสถ์ ขณะหลวงพ่อกำลังเทศน์อยู่ หรือมีคนเอาปืนมาลอบยิงท่าน ท่านก็ไม่ว่าอะไร อยากจะทำก็ทำไป เพราะเขาอิจฉาหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านบอกว่า เราหยุด หยุดเป็นพระ ชนะเป็นมาร เราไม่หนี เราไม่สู้ แต่เราปฏิบัติ เราก็ทำความดีของเราเรื่อย เดี๋ยวไอ้พวกมาร พวกอิจฉาก็หายไปเอง เรานั่งเฉย ไม่ต้องไปโต้ตอบอะไร เขาด่าเราภายใน ๗ วัน เหนื่อยมันก็หยุดไปเอง ไม่โต้ตอบ ชนะด้วยความดี
#ในการมาเรียนพระปริยัติธรรม #แต่ก่อนมีพระเณรมาเรียนกันมาก มีถึง ๖๐๐ กว่าองค์ #หลวงพ่อบอกว่าเลี้ยงไหว #ท่านบอกว่าเมื่อจั้งใจมาเรียนแล้ว #แม้จะคับที่ก็ขอให้อยู่ได้ #อัศจรรย์อย่างหนึ่ง #คือหลวงพ่อเลี้ยงอาหารไหวตลอด #เดี๋ยวก็มีคนเอาข้าว #เอาอะไรต่ออะไรมาถวายทีหนึ่งก็เป็นลำเรือ